บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท รายงานรายได้จากการให้บริการสำหรับงวดหกเดือนแรกของปี 2566 ที่ 4,821 ล้านบาทเติบโตขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำจากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 1,112 ล้านบาทพุ่งขึ้นร้อยละ 74 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการ ที่เติบโตขึ้นเกิดจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) ของทั้งพอร์ตโฟลิโอที่สูงขึ้นจากร้อยละ 54 ในครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็นร้อยละ 69 ในครึ่งปีแรกของปีนี้ และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ที่ปรับตัวขึ้นถึงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนผลประกอบการของกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยยืนยันการฟื้นตัวเข้าใกล้สภาวะปกติของการท่องเที่ยวภายหลังทั่วโลกเปิดประเทศเต็มรูปแบบได้อย่างชัดเจน สะท้อนจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ยระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนที่ระดับร้อยละ 76 ซึ่งสูงกว่าของปี 2565 ที่ร้อยละ 48 จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เลือกจุดหมายปลายทางเป็นชายหาดในประเทศไทย นอกจากนี้ การทำการตลาดที่มุ่งเป้าเจาะจงในแต่ละพื้นที่ประกอบกับช่องทางการขายที่แข็งแกร่งส่งผลให้โรงแรมของ SHR เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักเดินทางหลาย ๆ คน นับเป็นปัจจัยที่หนุนขีดความสามารถในการผลักดัน ADR ให้เติบโตได้อีกด้วย โดยในครึ่งปีแรกของปี 2566 ADR เฉลี่ยอยู่ที่ 8,431 บาทกระโดดขึ้นถึงร้อยละ 72 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน

กรุงเทพ, 11 สิงหาคม 2566 – บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท รายงานรายได้จากการให้บริการสำหรับงวดหกเดือนแรกของปี 2566 ที่ 4,821 ล้านบาทเติบโตขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำจากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 1,112 ล้านบาทพุ่งขึ้นร้อยละ 74 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการ ที่เติบโตขึ้นเกิดจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) ของทั้งพอร์ตโฟลิโอที่สูงขึ้นจากร้อยละ 54 ในครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็นร้อยละ 69 ในครึ่งปีแรกของปีนี้ และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ที่ปรับตัวขึ้นถึงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนผลประกอบการของกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยยืนยันการฟื้นตัวเข้าใกล้สภาวะปกติของการท่องเที่ยวภายหลังทั่วโลกเปิดประเทศเต็มรูปแบบได้อย่างชัดเจน สะท้อนจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ยระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนที่ระดับร้อยละ 76 ซึ่งสูงกว่าของปี 2565 ที่ร้อยละ 48 จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เลือกจุดหมายปลายทางเป็นชายหาดในประเทศไทย นอกจากนี้ การทำการตลาดที่มุ่งเป้าเจาะจงในแต่ละพื้นที่ประกอบกับช่องทางการขายที่แข็งแกร่งส่งผลให้โรงแรมของ SHR เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักเดินทางหลาย ๆ คน นับเป็นปัจจัยที่หนุนขีดความสามารถในการผลักดัน ADR ให้เติบโตได้อีกด้วย โดยในครึ่งปีแรกของปี 2566 ADR เฉลี่ยอยู่ที่ 8,431 บาทกระโดดขึ้นถึงร้อยละ 72 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน

ปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรปในปัจจุบันส่งผลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเห็นได้จากการที่ชาวยุโรปเลือกที่จะท่องเที่ยวภายในประเทศหรือภูมิภาคมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าว ทำให้โรงแรมของ SHR ในสหราชอาณาจักรยังรักษาโมเมนตัมเชิงบวกไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากฐานลูกค้าหลักประมาณ 90% เป็นนักท่องเที่ยวจากในประเทศ  ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มสูงถึงร้อยละ 70 ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนของปี 2566 เมื่อเทียบกับร้อยละ 54 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน อุปสงค์ของโรงแรมในสหราชอาณาจักรยังเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้เกิดจากการปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการในตลาดและการปรับปรุงห้องพักอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น ADR เฉลี่ยในครึ่งปีแรกของปี 2566 ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 10 โดยอยู่ที่ 83 ปอนด์ท่ามกลางความระมัดระวังในการใช้จ่ายสำหรับสินค้าฟุ่มเพือยของลูกค้าที่เป็นผลมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นพอร์ตโฟลิโอของสหราชอาณาจักรยังมีอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA margin) ทั้งในไตรมาส 2 และรอบครึ่งปีแรกของปีนี้เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันในปีก่อนจากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพขึ้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าทั้งอัตราการเข้าพักเฉลี่ยและ ADR จะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 3 สอดคล้องกับปริมาณการจองล่วงหน้าในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว สะท้อนความเชื่อมั่นในการเดินทางทั้งในและต่างประเทศของภาคธุรกิจและภาคการท่องเที่ยว

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อเนื่องมายังผลประกอบการของโรงแรมในโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย ในไตรมาส 1 ปีนี้ ที่ไต่ระดับสูงถึงกว่าร้อยละ 87 อย่างไรก็ตามอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอ่อนตัวลงในไตรมาส 2 ของปีนี้เมื่อเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่เดินทางระหว่างภูมิภาคน้อยลง ผนวกกับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนที่ช้ากว่าคาด ส่งผลให้ภาพรวมของอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในครึ่งปีแรกไม่แตกต่างจากช่วงเดียวกันในปีก่อนมากนัก ทั้งนี้ SHR มองภาพครึ่งปีหลังของมัลดีฟส์ว่าจะค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2565 และอัตราการเข้าพักเฉลี่ยยังมีความอ่อนไหวจากการเปิดประเทศในหลายพื้นที่ทั่วโลกซึ่งกระตุ้นการกระจายตัวไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ของนักท่องเที่ยว โรงแรมในมอริเชียสได้ปิดตัวชั่วคราวเพื่อปรับปรุงระบบบริหารน้ำอย่างเต็มรูปแบบและจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างจำกัดต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของ SHR ในปีนี้เนื่องจากรายได้จากการให้บริการของโรงแรมในมอริเชียสคิดเป็นเพียงร้อยละ 3 ของรายได้ทั้งหมด

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขทางสถิติที่โดดเด่นของกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยและสหราชอาณาจักร แสดงถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โรงแรมในภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งในมัลดีฟส์และฟิจิก็มีแนวโน้มสดใส โดยฐานลูกค้าในฟิจินอกเหนือจากกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว เราเห็นตลาดใหม่ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญคือกลุ่มนักท่องเที่ยวจากทวีปอเมริกาเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวแคนาดา ทำให้มั่นใจได้ว่าภาคการท่องเที่ยวจะแข็งแกร่งได้ต่อเนื่องโดยได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ โรงแรม แคสอะเวย์ ไอส์แลนด์ที่ฟิจิมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเกินกว่าร้อยละ 93 ในไตรมาส 2 ในขณะที่โรงแรมในโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังส่งสัญญาณบวกในเกือบทุกพื้นที่ที่โรงแรมของบริษัทฯ ตั้งอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจการบินฟื้นตัวได้ดีด้วยการประกาศเพิ่มเที่ยวบินพร้อมการเปิดเส้นทางบินใหม่ในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้นหนุนการเติบโตของภาคการให้บริการเพิ่มอีกทางหนึ่ง 

SHR เดินหน้าพัฒนาและนำเทคโนโลยีดิจิทัลบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้สอดรับกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในตลาด สิ่งเหล่านี้ประกอบกับความมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตโฟลิโอโดยใช้กลยุทธ์บริหาร RevPar ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการปรับปรุงห้องพักในหลายโรงแรมทั้งในประเทศไทย ฟิจิ และสหราชอาณาจักร โดยพร้อมเปิดให้บริการห้องพักรูปแบบใหม่ในปลายปี 2566 ผนวกกับมาตราการคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการบรรลุเป้าหมายรายได้ที่เกินกว่า 10,000 ล้านบาทให้ได้สำเร็จ เราจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้ถึงเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่งคั่งให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกคนของบริษัทฯ ในปี 2566 นี้”

SHR มีความพร้อมในการเผชิญต่อความท้าทายต่าง ๆ โดยมีสถานะทางการเงินอันแข็งแกร่งด้วยการรักษาระดับหนี้สินให้ต่ำอยู่เสมอและการจัดการด้านเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัท ทริสเรทติ้งได้ประเมินระดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของ SHR ที่ระดับ BBB+ ระดับความน่าเชื่อถือนี้จะเพิ่มขีดความสามารถของ SHR ในการลดต้นทุนทางการเงินโดยรวม ในปัจจุบันการออกหุ้นกู้กำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ และ SHR พร้อมขับเคลื่อนสู่การเติบโตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ท้ายที่สุด SHR มุ่งเน้นที่การเติบโตแบบยั่งยืนเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน โดยโรงแรม 5 แห่ง และ เดอะ มารีน่า แอท ครอสโร้ดส์ ได้รับมาตรฐาน Green Globe สะท้อนถึงการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และแขกที่มาพักว่า การดำเนินงานในโรงแรมของ SHR ได้มาตรฐานตามหลักสากลและสามารถตอบรับต่อความคาดหวังของผู้ที่มาเข้าพักได้ โดยในปี 2566 SHR ได้เริ่มวางแผนเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutral company) ภายในปี 2573 เพิ่มกิจกรรมต่างๆที่ให้ความสำคัญต่อการรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน พร้อมอนุรักษ์ธรรมชาติอันสวยงามส่งต่อให้กับนักท่องเที่ยวรุ่นต่อไป กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง SHR และชุมชน แต่ยังเป็นการสร้างสถานะที่แตกต่างโดยเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จากที่ต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย

BANGKOK, THAILAND – S Hotels and Resorts PCL (SET: SHR), the global hospitality company from Singha Estate PCL (SET: S), announced accelerating total revenue from services of THB 4,821 million (+28% YoY), and jumping adjusted EBITDA of THB 1,112 million (+74% YoY) for the first half of 2023. The performance was derived from 69% occupancy rate of the overall portfolio in the first six months of 2023, compared with 54% occupancy rate recorded during the same period in the previous year, and an increase of 11% in average daily rate (ADR) from the first half of 2022.

The properties in Thailand have reflected a concrete recovery in Thai tourism industry which is close to the pre-pandemic level after the country has fully opened the border. The performance has illustrated the improved occupancy rate from January to June 2023, registering an average of 76%, compared to 48% recorded in the first half of 2022. This was mainly due to increased domestic travelling and international holidaymakers opting for Thailand beach holidays. Through destination marketing and strong distribution channels, SHR’s Thai properties stand out as top destinations in travellers’ minds, inducing the ability to command higher ADR. The ADR in the first half of 2023 was THB 8,431, significant growth of 72% compared to the same period of last year.

The economic challenges in Europe at present have affected the traveling behavior, driving the European to travel more in their own countries or within the region. This has resulted in the ability of SHR’s UK properties to maintain positive momentum as the majority of the guests or approximately 90% was composed of local tourists. The UK portfolio has recorded an occupancy rate of 70% from January to June 2023, compared to 54% during the first six months of the previous year. Through market adaptions and hotels room product renovations, demand remains favorable in the UK properties. Additionally, the ADR in the first half of 2023, was up by 10%, at approximately GBP 83 amid consumers’ discretionary spending strained by higher living costs. Moreover, the operating performance for the second quarter and the first half of this year showed the growing EBITDA margin from higher cost and expenses management efficiency. It is expected that both the occupancy rate and ADR in 3Q23 will continue to increase, supporting by the advance booking during the high season. This reflects the confidence in the corporate and leisure industry for domestic and international travel.

The change in the European’s traveling behavior mentioned earlier has also affected the properties’ performance at CROSSROADS Maldives. CROSSROADS Maldives recorded an occupancy rate above 87% but slowed down in 2Q23 due to seasonality impact with lower number of tourists from Europe who travel to overseas less and slower-than-expected recovery of Chinese tourist. This result in an overall performance in the first half of 2023, comparable with that of 2022. Looking conservatively ahead towards the end of this year, SHR foresees a relatively similar performance compared to last year in occupancy however this rate is in a sensitive market as tourists are expected to explore other destinations, corresponding with fully opened borders around the world. Additionally, the Europeans prefer to travel domestically while the return of Chinese tourists is slower than expected.

The property in Mauritius has been temporarily closed for a complete overhaul and upgrade of the water management system and will reopen in the fourth quarter of this year, making only a minimal impact on SHR’s annual performance as the Mauritius property accounts for just 3% of total revenue.

Our operating performance in the first half of the year has been highly satisfactory, especially with the statistics in Thailand and the UK showing positive signs of continued strong recovery. Properties in other locations, for instance, the Maldives and the Fiji Islands, also show a promising trajectory. The customers base in Fiji has been expanded, welcoming more tourists from North America especially the Canadians to the properties, apart from the current market share dominators who are the Australians and the New Zealanders. We are confident that the tourism sector will remain strong with the support from the new market expansion. Castaway Island – Fiji has enjoyed an occupancy rate of over 93% during the second quarter, while CROSSROADS Maldives has recorded a consistent performance despite the low season. The outlook for the remainder of the year looks promising for most of our operating regions. In addition, the aviation business is recovering well, with more flight schedules being announced with new routes in the second half of this year. This allows passengers to reach their holiday destinations more conveniently, thereby supporting a growing hospitality sector.

We have committed to the improvement and implementation of various digital technology platforms to accommodate dynamic customer demand in the market. In addition, we are ambitious to boost portfolio efficiency by deploying the optimal RevPAR management strategies from the renovations in many hotels in Thailand, Fiji, and the UK whose new rooms will be ready to welcome guests towards the end of 2023. All of these initiatives together with our strict cost measurement will support our trajectory towards revenue targets of over THB 10,000 million. We are doing our best to meet those targets to satisfy all our stakeholders towards the end of 2023. Mr. Dirk De Cuyper, Chief Executive Officer of S Hotels & Resorts

SHR is prompt to overcome challenges thanks to a strong financial position where leverage is constantly maintained at a low level and capital expenditures have been managed efficiently. TRIS rated SHR at “BBB+” and a good credit rating will pave the way for SHR to acquire a lower cost of capital and grow more efficiently. At present, the debenture issuance plan is proceeding as scheduled.

Finally, SHR continues to put sustainability at the heart of its operations, and those efforts have been recognized with six properties receiving Green Globe™ Certifications. This reassures investors and hotel visitors that SHR hotel operations comply with international standards and expectations. Starting in 2023, SHR has strategically laid out its plan to become a carbon-neutral company by 2030. In doing so, SHR is taking more responsible actions in local communities and the environment, minimizing impact in order to preserve the locations of its properties for the next generation. These activities not only foster a strong bond between SHR and the community but also position SHR as an eco-friendly and sustainable option for environmentally conscious tourists from all over the world For more information about S Hotels & Resorts, please visit www.shotelsresorts.com or follow us on Facebook, Instagram, YouTube or LinkedIn.

About S Hotels & Resorts Public Company Limited

S Hotels and Resorts Public Company Limited, the hospitality arm of Singha Estate Public Company Limited, is a fast-growing, Thai-inspired company with an extensive international portfolio and world-class standards. Specialising in the management and investment of high-quality hotels and resorts in desirable destinations across the globe, S Hotels & Resorts has created a collection of its own distinctive lifestyle brands, whilst also partnering with the hospitality industry’s leading names. The company aims to set new standards for leisure and lifestyle through diversified business platforms and to enhance value for all its stakeholders based upon a philosophy of sustainable development and delivering benefits to local communities. To learn more, please visit www.shotelsresorts.com or follow us on Facebook, Instagram, Youtube, or LinkedIn.