
อันนี้ เป็นบทความ ที่ตั้งใจในการทำมา ของการทำเพจ นี้เลยนะครับ
เนื่องจากมีสมาชิกเครือ โรงแรมหลายเชน ในโลกนี้ จริงๆ มีเยอะกว่านี้
แต่ผมขอเขียน 5 เชน หลักๆ ที่คนไทย ถือมากที่สุดในตอนนี้ก่อนนะครับ
คือ Accor / Marriott / IHG / Hilton / Hyatt
ในปี 2022 หลักจาก การสถานกาณ์ Covid-19 ทำให้ โรงแรมราคาถูกลงเยอะมากช่วงโควิด
และ สถานะของเครือ ต่างๆ ก็เก็บได้ง่ายมากๆ
ทำให้หลายๆ คนได้มีโอกาสลองระดับสูงๆ ของหลายเครือ และโรงแรมระดับ 5 ดาว กันบ้างแล้วนะครับ
สิ่งที่แตกต่างจากรอบที่แล้ว เนื่องจาก IHG ได้เปลี่ยนชื่อโปรแกรมเป็น IHG One Rewards
และได้มีการรีโปรแกรมใหม่ ทั้งหมด
ล่าสุดตอนนี้ สถานการณ์จะเริ่มกลับมาเป็นปกตินะครับ ตอนนี้สมาชิกหลายๆ ท่าน
ถือสถานะ ระดับสูงๆ ของเครือใหญ่ๆ กันบ้างแล้ว
บทความนี้ จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ เลือกเครือโรงแรมที่จะถือ
ในช่วง 2 – 3 ปีต่อจากนี้ หรือจะถือยาวๆ
และเป็นโอกาสที่จะลองพัก โรงแรมต่างๆ ในเครือนั้นๆ เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ
ผมแจ้งไว้อย่างนี้ละกัน นะครับ โรงแรมต่อให้ Hardware ดีแค่ไหน
สุดท้าย การตัดสินว่า โรงแรมนี้ดี หรือ ไม่ดี จะตัดสินที่การบริการครับ ดังนั้น นอกจากราคาแล้ว
ผมถือว่าการบริการของเชน หรือ โรงแรมนั้นๆ เป็นการตัดสินใจหลักๆ เลย
บทความนี้จะแบ่งออกเป็น 4 ช่วงนะครับ
คือ แบ่งเปรียบเทียบ สิทธิประโยชน์ของแต่ละเครือโรงแรม 5 เครือ
ในแต่ละ ระดับ
1. Bottem Elite ระดับล่าง
2. Mid Elite ระดับกลาง
3. Top Elite ระดับบน จนถึง สูงสุดของแต่ละเครือ
ทำเป็นตารางในแต่ละระดับครับ
ช่วงที่ 4 ผมจะเขียน ข้อดี ข้อเสีย แต่ละเครือโรงแรมนะครับ
แต่ขอแจ้งว่าจะเป็น ความเห็นส่วนตัวของผม นะครับ
หลายๆ ท่านจะทราบว่า ผมถือ IHG เป็นหลัก จะเป็นมุมมองของคนที่ถือ IHG เทียบกับ เครืออื่น
สุดท้าย ก็จะเป็นการสรุป หลักๆ เหตุผม ว่าทำไม ผมเลือกที่จะถือ IHG เป็นเครือหลักตอนนี้
ปกติ Bloger สายโรงแรม ต่างประเทศ จะถือเครือโรงแรมกัน 1 – 2 เครืออยู่แล้ว
แต่ก็จะมีการย้ายเครือ สังกัด เรื่อยๆ นั้นแหละ ครับ
วันนี้ ผมยังโอกาสกับ IHG อยู่ แล้ว วันหน้า
มีการเทคโอเวอร์ เปลี่ยนแปลง ผมก็จะมีโอกาสย้ายเครือได้ครับ
1. Bottem Elite ระดับล่าง

มาเริ่มที่ระดับล่างก่อน นะครับ แต่ไม่ใช่ระดับเริ่มต้น ที่สมัครได้ฟรีนะครับ
ALL คนไทยส่วนมาก ว่าถือ ALL ระดับ Silver ทั้งนั้นแหละครับ
เพราะว่าได้จาก Accor Plus จะเห็นว่าแลกไม่สามารถแลกนอนฟรีได้เหมือน
เครืออื่นนะครับ 2000 แต้มแลกเป็นเครดิตเอา ไม่กะรันตีอัพเกรด
แต่ก็มีเลท เช็คเอาท์ให้เหมือนทุกเครือ
ช่วงโควิด มีลดจำนวนในการทำ Platinum ครึ่งหนึ่ง เหลือ 30 คืน
ทำให้คนไทย นอน ibis เพื่อทำ Platimum กันเยอะเลย น่าจะได้มีโอกาสได้ลอง Platinum กันเยอะแล้วครับ
—————————————————————————————————————————————————————————
Marriott Bonvoy ผมว่าพอปรับโปรแกรมแล้วแอบโหดขึ้นเยอะเลยครับ
เก็บได้แต่เป็น Night เท่านั้น นอนอย่างเดียวเลย
ระดับ Silver สิทธิประโยชน์ไม่ได้มีอะไรมาก
แต่ต้องนอน 10 คืน โรงแรม หัวหิน พัทยา ใกล้ๆ ตอนนี้ราคาก็ 3 – 4 พันบาทต่อคืน
Coutyard By Marriott Pattaya เปิดราคามา ก็ราวๆ 4 พันบาทต่อคืนนะครับ
—————————————————————————————————————————————————————————
IHG ตอนนี้ พอมี Ambassdor ให้ Platinum ก็แนะนำให้สมัครเพื่อเอา
Platinum อัพเกรดห้องไปเลย
มีระดับ Silver เพิ่มมาใหม่ ไม่รู้จะทำมา ทำไมไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรเลย
แต่ถามว่าจริงๆ ระดับ Gold
ผมพักส่วนมากก็ได้อัพเกรดนะ IHG ปั้มจากซื้อแต้ม ไม่แนะนำให้เก็บ Night
แต่ก็มี Fast Track 3 คืน ได้ระดับ Gold นะครับ เก็บง่ายๆ เลย
แต่แนะนำให้ข้ามไปเก็บ Platinum เลยนะครับ
—————————————————————————————————————————————————————————
Hilton ระดับ Silver ก็ไม่มีอะไรมาก แต่ Hilton ในไทยมีโรงแรม ไม่เยอะมาก
แถมราคายังประมาณหนึ่งเลย แต่ยังดีที่เก็บเป็น Stay ได้นะครับ
—————————————————————————————————————————————————————————
Hyatt Hyatt ปกติมีโรงแรมทั่วโลกค่อนข้างน้อยครับ แล้วโรงแรมส่วนมากราคาค่อนข้างสูง
ยกเว้น Hyatt Place ที่สมาชิก World of Hyatt ได้ อาหารเช้าฟรีด้วย
นอน 10 คืนง่ายกว่าเก็บแต้มเยอะ
ถึง Hyatt ได้ Small Luxury Hotel เข้ามาในกลุ่ม ราคาโรงแรมของ SLH ก็แรงเหมือนกัน
แต่ Hyatt สิทธิประโยชน์ ค่อนข้างดีครับ อยากให้ Hyatt Place ขึ้นเยอะๆ
** ถ้า Hyatt ปล่อย X2 Night มา ผมเห็นว่าน่าเก็บเลย นอนยาวๆ คุ้มแน่นอน รอดูว่าปีหน้าจะมีมาไหม?
2. Mid Elite ระดับกลาง

มาต่อกันที่ ระดับกลาง นะครับ
ระดับสิทธิประโยชน์ ที่มีเหมือนกัน คือ อัพเกรดห้องนะครับ
แต่จะมีของ Hilton ให้อาหารเช้า มาด้วย
ALL ระดับ Gold จริงๆ เป็นระดับนี้ง่ายมากๆ แต่คนไทย ไม่ค่อยจะรู้วิธี
ปั่นระดับนี้ นะครับ ถ้าทำวิธีปกติ 30 คืนโหดมากเหมือนกันครับ
วิธีงานที่สุด ชอบการปั่น Gold ซื้อ Ibis Business Card ราคา 90 Euro
ก็ได้มาแล้วละครับ สิทธิประโยชน์ ที่เพิ่มมาก็เอา อัพเกรดห้องครับ
—————————————————————————————————————————————————————————
Marriott Bonvoy ระดับ Gold เมื่อก่อน Starwood ให้อาหารเช้าสำหรับ
Gold ครับซึ่งคุ้มมากๆ แต่ตอนนี้ ไม่มีอาหารเช้า
ระดับ Gold ต้องนอน 25 คืน แต่วิธีที่ไวกว่า คือการทำ Fast Track
และการทำ Status Match ซึ่งเอาจริงๆ ทำเพื่อเอา Gold ยังไงก็ไม่คุ้มครับ
เพราะได้แค่อัพเกรดห้อง กับ Welcome Point เท่านั้นครับ
เพราะคงต้องสถานะในแต่ละปี ก็ต้องนอน ปี 25 คืน
—————————————————————————————————————————————————————————
IHG สำหรับ เมื่อก่อนทำ Platinum ยากประมาณหนึ่งเลย
ต้องนอน 40 คืน หรือ 40000 แต้ม เพื่อเอาอัพเกรด กับแต้ม 50% เท่านั้น
เอามาปั้มแต้ม เป็นหลัก นะ ของ IHG
แต่เดี๋ยว ทำง่ายสุดๆๆ จ่าย 200 USD หรือ 40000 แต้มสมัคร Ambassador
ก็ได้แล้ว ถึงได้บอกว่า Ambassador ใหม่โกงมากๆ
แถมนอน Intercon ,Regent ก็ได้ สิทธิประโยชน์แล้ว เครดิต 20 USD
อาหารเช้า 1 คน ที่โซนประเทศจีน เช็คเอาท์ เลท 4 โมงเย็น
**** ล่าสุด IHG รีโปรแกรมใหม่ สิทธิประโยชน์ เจ๋งๆ อย่าง การใช้บริการเลาจน์
หรือ Lounge Membership ต้องนอน 40 คืนนะครับ ดังนั้น นอนทุกปี 40 คืน
ก็โอเคแล้วครับ ซึ่งจะเห็นได้ว่า กลายเป็น IHG ระดับกลาง Benefits คุ้มมากๆ เลย
เพราะ ได้เลาจน์ ส่วนมากอย่าง Intercontinental จะได้อาหารเช้า ด้วย!!!
—————————————————————————————————————————————————————————
Hilton ผมว่าในระดับ นี้ Hilton ดีที่สุดแล้ว ให้อาหารเช้า สำหรับสมาชิก
ถึงไม่ได้เป็น Buffet ก็เถอะ ได้อัพเกรดห้อง
ปกติต้องนอน 40 คืน หรือ 20 Stay แต่สามารถ มี โปรโมชั่น Visa ออกมาเรื่อยๆ
นอน 1 คืน หรือ Status Match นอน 10 คืน
แถมได้โบนัส แต้มอีก 80% ให้มาเยอะจริงๆ
ผมยังเสียดาย ที่ไทย โรงแรมของฮิลตันน้อยไปนะครับ ไม่งั้นจะเก็บ Hilton ได้ง่ายกว่านี้
สิทธิประโยชน์ ก็ได้อาหารเช้า อัพเกรดห้อง ครับ
—————————————————————————————————————————————————————————
Hyatt สำหรับ Hyatt ก็เก็บยากทุกระดับจริงๆ – –
ระดับ Explorist ระดับนี้แทบจะเทียบ กับระดับล่างเลย แทบไม่ต่างกัน
กะรันตี อัพเกรดห้อง เพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง
แต่ระดับ มี Fast Track 10 คืน ให้ทำนะครับ
แต่บางรอบเหมือนให้แต่พนักงาน บริษัทใหญ่ๆ เท่านั้น
ตอนนี้ World of Hyatt ทำยากเหมือนกันครับ
3. Top Elite ระดับสูงสุด

ระดับสูงสุด ของในแต่ละเครือ แล้วนะครับ
มาดูกันนะครับว่าแต่ละเชน จะจัดเต็มสิทธิประโยชน์ สำหรับสมาชิก แค่ไหน
เอาจริงๆ ไทยเอง ไม่มีเยอะนะครับ
ที่จะเป็นสมาชิกระดับท๊อปๆ ของแต่ละเครือได้
เนื่องด้วยประเทศไทย ไม่มีบัตรเครดิตที่ Co-Brand Chain Hotel
เหมือนที่ อเมริกา EU หรือ ญี่ปุ่น มีกัน บัตรเครดิต ช่วยในการปั่นระดับได้เยอะมากครับ
ผมอยากให้เกิดในไทยนะ

ALL
ปีนี้ ALL เปลี่ยนชื่อระบบโปรแกรมใหม่ ทำให้มีระดับสูงสุด
ระดับใหม่ขึ้นมาครับ คือระดับ Diamond
เอาที่ Platinum ก่อน เมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้ว Platinum ทำง่ายครับ เพราะ
ปั่นแต้มเอา และแต้มจากโปรโมชั่นทั้งหมด เอามานับการเลื่อนสถานะได้
แต่พอเปลี่ยนระบบ ทำยากขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องไปดูฝั่งแต้มครับ แพงมาก
ง่ายที่สุดของการทำ Platinum ของ ALL คือนอน 60 คืน ครับ
แนะนำช่วงนี้ราคา Ibis ถูก ครับนอนยาวๆ 60 คืนก็ 6 – 8 หมื่นบาทเท่านั้น
แถม ALL จะให้ Night ที่นอนปีนี้ ยกเอาไปนับปีหน้าได้อีก
เป็น Platinum ยาวๆ จนจบปี 2022 ต้นปี 2023 เลยทีเดียว
ส่วนสิทธิประโยชน์ของ Platinum โซนบ้านเราคุ้มค่า ที่จะทำแน่นอนครับ
เพราะได้ทั้งอาหารเช้า ได้ทั้ง Club Lounge มีของพิเศษตามแบรนด์อีก
โรงแรม Novotel Mercure ก็มีเลานจ์บริการ ได้ทั้งเช็คอินเร็ว และ เช็คเอาท์ เลท
ฟินๆ กันไปเลยนะครับ
ส่วนระดับสูงสุดอันใหม่ Diamond ของ ALL น่าจะเอามารองรับลูกค้าระดับสูง
ที่ ALL ไปเทคโอเวอร์ Raffles Fairmont มานะครับ ทำยากมาก
คือนอน ราวๆ 10400 EU ก็ 4 แสนบาท ครับตอนนี้ได้แค่อาหารเช้าฟรี
กับให้ Gold คืนอื่นได้ กับ บัตรกำนัล 25 EU 4 ใบ ไม่น่าทำเลย
รอดูจะมีสิทธิประโยชน์อะไรดีๆ เพิ่มมาบ้าง และ ALL ไม่มี Lifetime นะครับ
ช่วงโควิดที่ผ่านมา ALL มีโปร X2 ไนท์ ทำให้เก็บ กันได้ง่ายมากๆ
ยิ่งราคาโรงแรมถูกมากกกก ด้วยคืนละ 500 – 600 บาท เท่านั้น
เป็นโอกาสดี ที่คนเก็บ Platinum เพื่อลอง สิทธิประโยชน์ของ ALL กัน
ปีนี้ ก็มีตัวช่วยให้เก็บง่ายด้วยการสมัคร Accor Plus นะครับ เก็บเพียง 48 คืนเท่านั้น
ต้องลองดูว่าปีหน้า จะต้องนอน 60 คืนเต็มๆ ไหม?
ส่วน Diamond ถือว่าค่อนข้างโหดนะครับ เทียบกับสิทธิประโยนชน์ที่ได้เพิ่มมา

Marriott
เอาระดับที่คนส่วนมาก จับต้องได้นะครับ
คือ Platinum ปกติ Platinum ต้องนอน 50 คืน
ไม่มี Stay ไม่เก็บแต้ม แบบ Hilton และบอกว่า
Marriott Down Grade สมาชิกจริงๆจังๆมาก ทำไม่ถึงก็โดนลด
เมื่อก่อน Marriott ถ้านอนไม่ถึง 50 คืนเพื่อรักษา Platinum ไม่ได้
จะเอาแต้ม จ่ายเข้าไปเพื่อคงสถานะไว้นะครับ ตอนนี้ไม่มีมา 1 – 2 ปีแล้ว
ส่วนวิธีการทำ Platinum ง่ายที่สุด คือ Fast Track ที่คนสนใจช่วงนี้กันเยอะครับ
ปกติ Fast Track จะมาเป็นรอบๆ แต่เราสามารถส่งเมลล์ หรือ โทรไปขอทำได้
นอน 16 คืน ใน 90 วัน ก็ได้ Platinum มาใช้ 1 ปี
แต่ Marriott ออกโปรแรงขึ้น ออก Status Match ที่หายไปมานานมา
คงดึงสมาชิกจากเชนอื่นเข้ามา ข้อดีเพราะ Status Match เราจะได้อัพเกรด
เป็น Platinum เลย 15 คืน ใน 90 วัน นั้นจะได้ลอง
สิทธิประโยชน์ของ Platinum เต็มๆ
สิทธิประโยชน์ ของ Marriott ก็จัดเต็ม สมกับเป็นเชนใหญ่ที่สุดในโลกนั้นแหละครับ
แต่ดีไม่สู้ Starwood ที่ไปเทคโอเวอร์ มา
ทำให้คน สมาชิก Starwood เก่าเทไปเยอะเหมือนกัน
หลักอาหารเช้า Club Lounge ที่คนชอบกัน แต่
*** ไม่ใช่ทุกแบรนด์ ทุกที่ได้นะครับ
พวก Resorts ก็จะไม่ให้ ไปอ่านรายละเอียดดีๆ ว่าที่ไหนได้ ที่ไหนไม่ได้
และพวกระดับท๊อปๆ อย่าง Ritz-Carlton แทบไม่ได้ สิทธิประโยชน์อะไรเลย
และ Ritz-Carlton Reserve + Ritz-Carlton Singapore ไม่ร่วมโปรแกรม
ที่ได้เต็มๆ คุ้มๆ นะครับจะเป็นพวก
JW Marriott, Marriott Hotels, Delta Hotels, Courtyard, Westin
Autograph Collection, Renaissance Hotels, Sheraton, Le Méridien
ถ้านอนโรงแรมกลุ่มนี้ คุ้มแน่นอนครับ ได้เลานจ์ฟรี
ส่วนมากก็เป็นระดับกลางๆ ไปทางระดับหรูหราครับ
ส่วนระดับต่อไป Titanium นอน 75 คืนเยอะมากๆ
ส่วนสิทธิประโยชน์ ไม่ได้ดีกว่า Platinum เท่าไรนะครับ
แต้มเพิ่มเป็น 75%
ได้ Titanium Elite 75-Night Annual Choice Benefit มาเพิ่มอีกรอบ
และ United® MileagePlus® Premier® Silver Status
ส่วนระดับสูงสุดที่ทำได้คือ Ambassador Elite ครับ
นอน 100 คืน + 20000 USD ต่อปี
ปีละ 650000 บาท
ที่ได้เพิ่มมา :
Your 24 คือ เช็คอิน ตอนไหน เช็คเอาท์ตอนนั้น เหมือน U Hotels
Ambassador Service คือ เหมือนบริการส่วนตัว สำหรับสมาชิกระดับ
Ambassador ของ Marriott เท่านั้นครับ แต่ล่าสุดเห็นว่า
Marriott โล๊ะทีมนี้ออกไปหมดแล้วซะงั้น – –
ผมก็งงๆ ว่ามันคุ้มตรงไหนเนี้ย
จริงๆ มีระดับลับอย่างๆ Cobalt Elite ที่ได้รับเชิญอย่างเดียวเท่านั้นครับ
แต่สิ่งที่ทำให้คนเก็บ Marriott กันเยอะ เพราะ Marriott มี Lifetime ครับ
คือสมาชิกตลอดชีพนั้นแหละ ไหนก็เก็บกัน 50 – 60 คืนเพื่อรักษา Platinum ไว้อยู่แล้ว
ก็เก็บไปเรื่อยๆ จนได้ตลอดชีพสิ ทำให้เป็นจุดเด่นของเครือนี้เลย
Lifetime Platinum อยู่ที่ 600 คืน เป็น Platinum ติดต่อกัน 10 ปี
ถ้าคิดว่านอน 600 คืนใน 10 ปีไหว ตกปีละ 60 คืน Marriott ก็จะคุ้มที่สุดครับ
ปกติแล้ว ต้องนอน 50 คืน แต่วิธีที่ไวกว่า คือการทำ Fast Track
ช่วง โควิด มีการทำ Status Match มาลอง Platinum กันฟรีๆ 15 คืน
ส่วนการทำ Fast Track ก็ยังโทรขอเข้าไปทำกันได้อยู่นะครับ นอน 16 คืน
สิทธิประโยชน์หลักๆ ของ Marriott Bonvoy ระดับ Platimun
เนื่องจาก ผมได้ลอง Platinum ของ Marriott มาเยอะเลยช่วง โควิด
หลักๆ คือได้อาหารเช้าฟรี Welcome Points การอัพเกรดห้องพัก ได้มากได้น้อยแล้วแต่โรงแรมนะครับ
ส่วน เลานจ์ จะเป็น โรงแรมที่เป็น Hotel ที่จะได้ ส่วน Resort จะไม่มี และโรงแรมอย่าง Ritz-Carlton ก็จะไม่ได้นะครับ

IHG
IHG รีโปรแกรมเป็น IHG One Rewards
และได้เปลี่ยนชื่อจาก Spire มาเป็น Diamond ได้ยินครั้งแรก ชื่อโหลมากกกก
พร้อมกับการเก็บที่โหดมากกกกกกกก เป็น 70 คืน หรือ 120,000 แต้ม
ตอนแรกไม่ประกาศสิทธิประโยชน์นะครับ ลุ้นกันมากกกกกเลยจะได้อะไรบ้าง
ซึ่งหลักๆ Diamond ได้อาหารเช้าฟรี ครับ คุ้มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
จะได้เหมือนเชนอื่นๆ สักที แลกกับต้องเก็บเยอะขึ้นมากๆ
ถ้าเก็บตามปกติ แนะนำให้เก็บเป็นแต้ม นะครับ 120,000 แต้มเพราะคุ้มกว่ามาก
แล้วเก็บไนท์ 40 คืน เพื่อเอา คลับ เลานจ์
เก็บตามนี้จะคุ้มที่สุด นะครับ
ล่าสุด IHG มี ชาเลน 15 คืนมาก่อนนะครับ คุ้มมากกก เพราะโรงแรม IHG ไม่ได้ราคาแรงมาก
แต่ก็มีหลุด Fast Track 10 คืน ได้กดสมัครทัน คุณคือคนโชคดีแล้วครับ เพราะเก็บปกติ ทำได้ยากมากจริงๆ
แต่อย่างที่บอกไป ต้องมีนอน ถึงจะได้อาหารเช้าฟรี นะครับ ดังนั้น ได้มาคุ้มค่าต้องมานอนและเก็บแต้มไปเรื่อย
และตอนนี้ IHG ใช้แลกแต้มนอนฟรี น้อยลงจากช่วงก่อนโควิด 30 – 50% ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ทำให้
IHG เป็นโปรแกรมที่คุ้มค่าสุดๆ จริงๆ ถ้าคุณเป็น Diamond + Lounge Membership
แต่ระดับสูงสุดของ IHG จริงๆ
คือ Inner Circle Royal Ambassador Diamond ครับ
เพิ่มยศอย่าง Inner Circle มาด้วย
สำหรับโรงแรมหรูหราของ IHG ล่าสุดใช้ได้กับ
Intercontinental, Regent, Kimpton นะครับ
เมื่อก่อนทำง่ายกว่านี้ โกงกว่านี้
เมื่อก่อนนอน 60 คืน Intercon 10 คืน 3 ที่ ก็ได้แล้ว
เนื่องจาก Royal Ambassador Spire เป็นการเชิญเท่านั้น
แต่ละปีไม่เหมือนกัน 2018 10000 USD ที่นอนโรงแรม Intercontinental
ปี 2019 นอนถึง 15000 USD นอนที่ Intercontinental + Kimpton
ด้วยความที่ การทำแต่ละปีไม่เหมือนกัน ทำให้คนหลุด Royal ไปเยอะครับ
และทำให้ต้องย้ายเครือ ไปซบเครืออื่นไป
แต่สิทธิประโยชน์ก็ปรับลดไปพอสมควรเหมือนกัน ครับ
เมื่อก่อน Royal Ambassador Spire ดีที่สุดในบรรดาทุกเครือครับ
หลักๆ ที่ทำให้โกงคือ เช็คอิน 8 โมงเช้า และมินิบาร์ฟรีทั้งหมด เครื่องดื่ม
พูดให้นึกภาพออก ใช้กับ Intercontinental Hotel
มินิบาร์ มีเหล้าแพงๆ ขวดกลางๆ ไวน์ขวดเล็กๆ เหล้าทั้งมินิบาร์นั้นแหละครับ
ดื่มได้ฟรี ทั้งหมดเลยครับ จ่ายค่าห้อง 5000 – 10000 บาท แต่ใช้มินิบาร์
ก็ได้ 3 – 4 พันแล้ว Club Intercontinental ฟรีอีก 3500 บาท
แค่ 2 อย่างก็ท่วมค่าห้อง ไปหมดแล้ว
แต่ตอนนี้ปรับเป็น เช็คอินเร็ว 10 โมงเช้า ครับเท่า Diamond
และ มินิบาร์ ได้ 50 USD ไม่แน่ใจว่าแยกจาก Ambassdor 20 USD หรือเปล่า
ถ้ารวมกันได้ 70 USD ผมว่ายังไงก็คุ้มครับ
และได้ Club Intercontinental ที่ไหนไม่มี ก็ให้อาหารเช้าแทนนะครับ
และได้ 1 Free Nights สำหรับทุกที่ทั่วโลก และ 1 Free Night สำหรับ Kimpton เปิดใหม่ ครับ
รวมเป็น 2 คืน

Hilton
Hilton ระดับ Diamond คือระดับสูงสุดของเครือ Hilton นะครับ
ถ้าปกติก็ต้อง นอน 30 Stay หรือ 60 คืน ส่วน 120,000 แต้ม น่าจะยากครับ
วิธีที่เร็วที่สุด คือ การทำ Status Match ครับ 12 คืน ภายใน 90 วัน
อันนี้คือเพิ่มขึ้นในปีล่าสุด นี้นะครับ ทำให้ยากขึ้น
แต่ตอนนี้ Hilton ออกโปรโมทชั่น Double Reward มาครับ
มาให้ทำง่ายที่สุด แล้วนะครับ 6 คืน เท่านั้น ได้ Diamond ยาวๆ ไปจนถึง 2024
ผมว่าคุ้มมากกกก ครับสุดคุ้มแล้ว
เพราะ Hilton Gold ก็ดีแล้ว Diamond ดีกว่าเยอะครับ โบนัส 100%
และหลักๆ จะเป็น ให้ Club lounge กับโรงแรมในเครือ ครับ
หลักๆ Hilton จะมีแบรนด์ Hilton ค่อนข้างเยอะ และมีเลานจ์ ให้ใช้บริการครับ
การจะเก็บปีถัดไป ก็นอน 30 Stay เท่านั้น
แต่ติดที่โรงแรมในไทย ค่อนข้างน้อยครับ
และที่สำคัญ Hilton มี Lifetime ด้วย เป็น Diamond 10 ปี แต่ต้องนอน 1000 คืน
แอบโหด

Hyatt
Hyatt เก็บยากทุกระดับ Globalist เป็นระดับ ท๊อปของ Hyatt
ผมจำได้ว่า Hyatt ก่อนเปลี่ยนเป็น World of Hyatt ให้สมาชิกระดับ ท๊อป
ได้ด้วยการทำ Fast Track นอนไม่เยอะมาก เท่านี้นะครับ
ตอนนี้ปีล่าสุด Fast Track 20 คืน เยอะมาก ให้พนักงานบริษัทใหญ่ๆ เท่านั้นด้วย
เมื่อก่อนคนจะถือเครือใหญ่และ ถือ Hyatt ด้วยพร้อมกัน
เพราะโรงแรม Hyatt เป็นโรงแรมหรูจริงๆ ครับ
แบรนด์ Hyatt มาตรฐานโรงแรมสูงจริงครับ คนชอบกันเยอะ
แต้มก็มูลค่าสูง แลกได้หลากหลายด้วย
แต่เครือ Hyatt มีแต่โรงแรมที่ราคาค่อนข้างสูง และน้อยทำให้เก็บยาก
หลักๆ ก็ได้ Club lounge และอาหารเช้า ครับ
ถ้าเก็บตามปกติ 60 คืนจะได้ Free Night 1 – 4, Free Night 1 – 7
4 Suite Upgrade Awards, 5,000 Bonus Points มาด้วย
ถ้ามี Hyatt Place เยอะๆ จะเก็บง่ายขึ้นเยอะนะครับ
ส่วนตัว ผมคิดว่าถ้า Hyatt ออก X2 Night มานะครับ
เก็บ Hyatt Place 30 คืนจะเป็นอะไรที่น่าสนใจมากกกกกกกก
เพราะทำ 60 คืน สิทธิประโยชน์ดีมากกๆ อย่างเลาจน์ อาหารเช้า
ได้ Free Nights แพงๆๆ มาอีก 2 คืน จะคุ้มไปไหนเนี่ย!!!
Hyatt มี Lifetime ด้วย แต่เก็บ 1 ล้านแต้ม เยอะมาก – -“
4. ข้อดี และ ข้อเสีย (ความเห็นของผมนะครับ)

ข้อดี ข้อเสีย ก็ตามตารางที่ผมสรุปไว้ให้เลยนะครับ