
โปรเจ็ค โรงแรมนารายณ์ นะครับ
จะเริ่มทุบ กลางปีนี้ แล้วนะครับ ใช้เวลาก่อสร้างโรงแรม 4 ปี
โดยจะมี 2 โรงแรมนะครับ สำหรับ โปรเจ็คนี้
มี 3 โซน นะครับ
1. โรงแรมนารายณ์ ยังเป็นชื่อนี้อยู่นะครับ จะเป็นโรงงแรมระดับ 4 – 5 ดาว สูงไม่เกิน 20 ชั้น มีจำนวน 200 ห้อง
ระหว่างศึกษาเอาเชนนอกมาบริหาร นะครับ ก็จะเป็นพวกแบรนด์ ที่ตามใจลูกค้า แบบ พวก Autograph Voco นะครับ
2. Ultimate Luxury Hotel โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว นะครับ แบบพวก Rosewood, Four Season, Mandarin Oriental
เปิดตัวแห่งแรกในไทย โรงแรมระดับนี้ เหลือไม่เยอะแล้ว นะครับ ที่ยังไม่มีในกรุงเทพ
มาเดากันดีกว่า ตอนนี้ เหลือ Raffles, Belmond, Regent, Taj Hotels, Langham Hotels, Oberoi Hotels เท่านั้นแล้วนะครับ
3. พื้นที่ส่วนกลาง 7,000 ตารางเมตร จะถูกพัฒนาเป็นคอนเซ็ปต์ An Oasis
เรามาเดาแบรนด์ 6 ดาวกันดีกว่า
Narai Hotel plans to build two new hotels on Silom Road by 2026, with an investment budget of 800 million to 1 billion baht, to replace the existing 54-year-old hotel.
Nathee Nithivasin, managing director of Narai Hotel, said the new project is meant to maintain the status of Narai Hotel as a Silom landmark.
Narai Hotel, which was established in 1968, closed on Feb 18 to prepare for the construction.
Mr Nathee said he could not reveal whether the company is fully investing on its own or creating a joint venture with a partner.
He said the demolition is estimated to start by mid-2022 for both the Narai Hotel and the nearby Triple Two Silom, also owned by the company, which will merge into one big development project.
The project consists of two hotels. The first one, with 200 rooms, will also be called Narai Hotel, and will be an entry-level luxury establishment in between the 4-star and 5-star segments.
Mr Nathee said some hotel facilities will be removed as tourists might want to get an authentic experience of Silom outside the hotel.
It might partner with local restaurants to offer breakfast services to guests.
Average Narai Hotel room rates were normally around 1,000-2,000 baht per night, but the new Narai is expected to charge more than 5,000 baht per night.
Another property, Triple Two Silom, will be a 6-star hotel with 100-150 keys, with the intention of attracting high spenders.
The company is currently selecting a hotel brand to help manage this property.
However, the building won’t be another skyscraper in the neighbourhood as it will have just 20 storeys to differentiate itself from other tall buildings.
“New property developments in Silom indicate that this area still has the potential to attract investors and tourists,” said Mr Nathee.
Other elements in the project will include a 7,000-square-metre courtyard and canal dividing the two buildings, which will be public space.
Moreover, the project will offer meeting rooms with a capacity of 2,000-3,000 people, as well as a food and beverage area for street food vendors and restaurants.
Every element of this project, which will total around 70,000 sq m of space, will be ready by 2026.
เปิดแผนปรับโฉมครั้งใหญ่ โรงแรมนารายณ์ ในรอบ 54 ปี ทุบทิ้งปั้นใหม่ อีก 4 ปีเสร็จ เผยดึงลักส์ชัวรี่เชน เข้ามาบริการในโซนที่สอง
นายนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด ทายาทรุ่นที่ 3 กล่าวว่า ถนนย่านสีลม มีศักยภาพสูงมาก ในการผลักดันพื้นที่ ให้กลายเป็นถนนสายธุรกิจที่พลิกโฉมหน้ากรุงเทพฯ สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาค “โรงแรมนารายณ์” ถือเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนนั้นด้วย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยสถานการณ์ บริบททางสังคม และปัจจัยด้านความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของนารายณ์ฯ ที่จะนำพาองค์กร ก้าวไปสู่อนาคต
กระทั่งความท้าทายที่เหนือการควบคุม จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวถึงจุดผันตัวครั้งใหญ่ ทางทีมผู้บริหารและผู้ถือหุ้นทุกคน จึงมีมติเห็นชอบร่วมกันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะปรับเปลี่ยนพื้นที่เข้าสู่ “นารายณ์ยุคใหม่” เพราะกระแสต่าง ๆ รอบตัวเราเปลี่ยนไปหมดแล้ว เราจำเป็นต้องเปลี่ยนตามยุคสมัย โดยพัฒนาไปสู่ An Oasis แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ใจกลางสีลม
นายนิธิ กล่าวว่า บริษัทฯถือโอกาสเปิดแผนการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อพัฒนาองค์กร ไปสู่โฉมหน้าใหม่ ยิ่งใหญ่ ทันสมัยขึ้น โดยแผนงานการปรับปรุงธุรกิจที่วางไว้ เรามุ่งสู่การพัฒนาภายใต้แนวคิด Be Part of Everyone Community ซึ่งเราแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนแรก เปิดพื้นที่สำหรับกลุ่มคนทั่วไป ให้เข้ามาพักผ่อน ใช้เวลาหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เรามีบริการทั้งร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่กิจกรรม สำหรับทุกวัย โดยการตกแต่งพื้นที่โซนนี้ จะยังคงเอกลักษณ์ กลิ่นอายความเป็นนารายณ์เอาไว้ ให้ได้เข้ามาเสพบรรยากาศเก่า ๆ อยู่ ไฮไลท์โซนนี้ คือเราจะจัดพื้นที่ส่วนสำคัญเอาไว้เพื่ออันเชิญ “องค์พระนารายณ์” ลงมาให้ผู้คนทั่วไปได้เข้ามาสักการะ กราบไหว้ให้เป็นจุดรวมใจของคนกรุงเทพอีกที่หนึ่ง
ส่วนโซนที่สอง ถัดเข้ามานั้น เป็นโซนลักชูรี่ ที่เป็นห้องพัก ระดับไฮเอนด์ ซึ่งขณะนี้เราติดต่อโรงแรมที่เป็นแบรนด์ ลักชูรี่ เชน รายใหญ่อยู่เจ้าหนึ่ง และจะเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะสามารถนำแบรนด์นี้เข้ามาได้ อยากให้ทุกคนคอยติดตาม น่าจะสร้างแรงกระเพื่อมด้านการทำธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนของการปรับปรุงพื้นที่ เราดำเนินการอย่างเป็นระบบ ภายใต้มาตรการด้านความปลอดภัย “ทุบ-เคลียร์-ปรับ-วาง-สร้าง” ทุบ : ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เคลียร์ : พื้นที่ให้กระทบกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบให้น้อยที่สุด ปรับ : ปรับพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้าง วาง : วางรากฐาน ระบบเสาเข็มที่มั่นคง สร้าง : เริ่มต้นการก่อสร้าง โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้างราว 4 ปี ในส่วนของกลยุทธ์ด้านการตลาด เพื่อสอดรับกับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต “โรงแรมนารายณ์ยุคใหม่” ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่เกิดขึ้น เราจำเป็นต้องเปลี่ยนตามยุคสมัย โดยกลุ่มตลาดลักชัวรี่ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เราอยากจะไปให้ถึงจุดนั้น เรามั่นใจว่าจะเป็นอีกแผนพัฒนาพื้นที่ที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ให้ย่านสีลมได้ก้าวไปสู่ความทันสมัยได้อย่างไม่ยากนัก
“ เราตั้งใจทำให้เกิดคอมนูนิตี้ ดึงชุมชน ให้คนทุกกลุ่มได้เข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่ สอดรับกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย เสริมศักยภาพด้านธุรกิจในกรุงเทพฯ พร้อมดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้พื้นที่แห่งนี้ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง” นายนิธิ กล่าว
สำหรับภาพรวมในการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาตลอด 54 ปีว่า ทางโรงแรมได้ให้บริการห้องพักมาทั้งหมดกว่า 7,590,000 ห้อง มีผู้เข้าพักมากกว่า 15,180,000 คน ด้านห้องอาหารระเบียงทอง แขกเข้ามารับประทานอาหารมาแล้วกว่า 30 ล้านคน
“วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายที่วางไว้ในการปรับแผนธุรกิจครั้งนี้ เรายังคงความมีมาตรฐานไว้เหมือนเดิม ซึ่งโรงแรมนารายณ์ได้รับรางวัลมากมายมาตลอดหลายปี ทั้งด้านการบริการลูกค้าและความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ว่าเราจะปรับเปลี่ยนองค์กรไปในทิศทางใด เราจะยังคงยึดมั่น รักษาคุณภาพ มาตรฐานและพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกคน” นายนิธิ กล่าว
หมวดหมู่:ไม่มีหมวดหมู่, Hotels, Independent Hotel, New Hotel, NEWS