
ข่าวสาร หนึ่งในผู้เล่น รายใหญ่ ตลาดโรงแรมบ้านเราอย่าง
SHR ของ สิงห์ นะครับ
มีแผนลงทุน 3 ปี มากถึง 7300 ล้านบาท นะครับ
แต่โปรเจ็คที่เป็น pipeline มีเพียง SO/Maldives นะครับ
ที่เหลือ น่าจะเป็น ซื้อกิจการโรงแรมแล้วมารีแบรนด์ นะครับ
แต่ไม่ได้อยู่ตลาดไทยอย่างเดียวนะครับ โซนอาเซียน มัลดีฟ ยุโรป ที่ SHR จะมีแผนลงทุน
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ตั้งเป้าทำรายได้โตสองเท่า
ขึ้นแท่นเป็นผู้ประกอบการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของไทย
กรุงเทพฯ 1 เมษายน 2565 – บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและการลงทุนชั้นนำในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าผลประกอบการเติบโตสูงสุดในปีนี้ ทุบสถิติโกยรายได้สูงสุด 8.5 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ที่ทำรายได้อยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท ด้วยปัจจัยหนุนจากการฟื้นฟูของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง นโยบายด้านการบริหารจัดการและการลงทุนโรงแรมแบบกระจายความเสี่ยง ตลอดจนการยกระดับการบริการเพื่อสอดคล้องต่อความต้องการสูงสุดของนักท่องเที่ยว การเพิ่มช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง (Direct Booking) ทำให้บริษัทฯ เตรียมก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของไทย
ความต้องการที่ ‘อั้น’ ไว้ตลอดช่วงโควิดกระตุ้นให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
นายเดิร์ก เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในหลายภาคส่วนของโลกกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เราคาดการณ์ว่าธุรกิจโรงแรมจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงโรงแรมของเราที่ตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้ง 5 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ที่คาดว่าจะสร้างรายได้เป็นสัดส่วนของรายได้รวมทั้งหมดร้อยละ 44 และ 28 ตามลำดับ”
“ในสหราชอาณาจักร นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) จะฟื้นตัวกลับมาเท่ากับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งนี้ ความนิยมในการการจัดงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมไมซ์ (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions หรือ MICE) ซึ่งกว่าร้อยละ 50 จะเป็นการจัดงานแบบพบปะกันของผู้เข้าร่วมงานที่โรงแรม อาจเอื้อให้ RevPAR สามารถเพิ่มขึ้นอีกจนกลับไปใกล้เคียงกับช่วงก่อนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Pre-Brexit) ขณะเดียวกันคาดว่าโรงแรมในสาธารณรัฐมัลดีฟส์จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางท่องเที่ยวมายังสาธารณรัฐมัลดีฟส์อย่างต่อเนื่อง โดยยังพบว่าผลกระทบจากประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่กำลังเกิดขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดดังจะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในห้วงเวลาดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 168,491 คน ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563 และ 2564 เกินกว่าร้อยละ 45 เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากประเทศทางแถบยุโรปและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ รัฐบาลของสาธารณรัฐมัลดีฟส์คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวในปี 2565 ประมาณ 1.6 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับปีผ่านมา นอกจากนี้ยังคาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศอื่น ได้แก่ สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ สาธารณรัฐมอริเซียส และประเทศไทย จะยังสามารถเติบโตต่อไป เนื่องจากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ เริ่มออกมาตรการผ่อนปรนด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวภายหลังการแพร่ระบาด ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด เรามั่นใจอย่างมากว่าเราจะได้รับ
อานิสงส์จาก “มาโครเทรนด์” (macro trends) อย่างมหาศาล เนื่องจากจำนวนของแขกผู้เข้าพักในโรงแรมของเรากลับมาใช้บริการซ้ำโดยเฉลี่ยร้อยละ 30”
การนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวอันน่าประทับใจช่วยสร้างอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) เพิ่มขึ้นร้อยละ 20-25
ความสำเร็จในการปรับโฉมโรงแรมใหม่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านต่าง ๆ ให้แก่โรงแรม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและไลฟสไตล์ของแขกผู้เข้าพักยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในปี 2565 นอกจากนี้การจัดแพ็กเกจที่พักสุดพิเศษพร้อมด้วยกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร เช่น การมีศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล หรือ Marine Discovery Centre ที่ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village) หรือ ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมมัลดีฟส์ (Maldives Discovery Centre) ที่ โครงการ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความทันสมัย และหลงใหลในความงดงามของธรรมชาติแวดล้อมของสถานที่ท่องเที่ยวให้ใช้จ่ายเพิ่มได้ถึงร้อยละ 15 โดยคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสร้างรายได้เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นร้อยละ 20-25 ให้กับโรงแรมในปีนี้
บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงโรงแรม 3 แห่งเพื่อให้ได้มาตรฐานและมีภาพลักษณ์สอดคล้องกับการเปลี่ยนเป็นแบรนด์ SAii ซึ่งเป็น แบรนด์ที่บริษัทฯ สร้างขึ้น และเป็นแพลตฟอร์มโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง (Self-Managed Platform) การใช้แบรนด์ SAii จะเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการปรับลุคในครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถช่วยกระตุ้นอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2563
กลยุทธ์จองที่พักโดยตรง ดันรายได้โตต่อ
ยิ่งไปกว่านี้ กลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยใช้การตลาดและการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการจองที่พักโดยตรงด้วยตนเอง สนับสนุนให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ในปีที่แล้วรายได้จากช่องทางจองที่พักโดยตรงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากแพลตฟอร์มสำหรับการจองห้องพักของบริษัทฯถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้การจองห้องพักเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว สร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้กับแขกผู้เข้าพัก ในปีนี้บริษัทฯคาดว่ารายได้จากช่องทางดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10 ในปีก่อน ๆ โดยเฉลี่ย เป็นร้อยละ 30 ของรายได้รวมทั้งหมด
แผนการเติบโตชัดเจน มั่นใจโต 3 เท่า รั้งตำแหน่งผู้นำตลาด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการวางแผนการลงทุน 3 ปี และวางงบการลงทุนกว่า 7.3 พันล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และวางงบกว่า 2.8 พันล้านบาทเพื่อเสริมแกร่งกลยุทธ์หมุนเวียนและต่อยอดการลงทุน (Asset Rotation) ตลอดจนการลงทุนในการก่อสร้าง SO/Maldives ซึ่งมีแผนเปิดตัวโครงการในปี 2566 นอกจากนี้ยังวางงบลงทุนเพื่อซื้อและควบรวมกิจการ (Merger and acquisition) เพิ่มเติมอีก 4.5 พันล้านบาท
“ในอีก 3 ปีข้างหน้า เรามุ่งเดินหน้าพัฒนาและขยายธุรกิจในทุกรูปแบบเพื่อทำให้บริษัทฯ เติบโตต่อไปในอนาคตหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 เริ่มคลี่คลาย เราจะยังคงรักษาพอร์ตโรงแรมของเราให้อยู่ในระดับสมดุลอยู่เสมอ โดยปลดล็อคทรัพย์สินที่เต็มมูลค่าแล้วเพื่อปรับปรุงทรัพย์สินในพอร์ตที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเราได้เริ่มดำเนินการปรับพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักรเป็นพอรต์แรก สำหรับแผนการลงทุนใหม่ เรามีแผนในการขยายธุรกิจผ่านการซื้อและควบรวมกิจการ โดยกำลังมองหาโรงแรมในแถบชายฝั่งทะเลเอเชียและแปซิฟิก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมหาสมุทรอินเดีย โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 4.5 พันล้านบาท นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ประกอบการและบริหารธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ของเราเอง รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรผู้ประกอบการโรงแรมชั้นนำระดับนานาชาติเพื่อขยายธุรกิจ ดังนั้นเราจึงเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถเติบโตเป็น 3 เท่าภายในปี 2567 อย่างแน่นอน” นายคุยเปอร์ กล่าว
# # # #
เกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือของ สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีพอร์ตโฟลิโอของโรงแรมและรีสอร์ทที่มีมาตรฐานระดับโลกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารและลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ทคุณภาพสูงในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก ทำให้ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท พัฒนาแบรนด์ไลฟ์สไตล์โฮเทลของตนเองขึ้นมาหลายแบรนด์ ทั้งยังได้ร่วมมือกับ- แบรนด์ชั้นนำในธุรกิจโรงแรมอีกด้วย บริษัทฯ มีเป้าหมายที่สร้างมาตรฐานของการพักผ่อนและไลฟ์สไตล์ด้วยแพลตฟอร์มธุรกิจที่หลากหลายและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใต้ปรัชญาการทำธุรกิจแบบยั่งยืนและการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่นรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จากเว็บไซต์ของบริษัทฯที่ http://www.shotelsresorts.com หรือติดตามได้ที่ Facebook, Instagram, YouTube, หรือ LinkedIn
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)
123 อาคารซันทาวเวอร์ส บี ชั้น 10 ถนนวิภาวดีรังสิต
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร. +66 (0) 2058-9888
http://www.shotelsresorts.com
Bangkok, April 1, 2022 – S Hotels & Resorts Plc (SHR), the flagship hospitality arm of Singha Estate PCL, expects the most robust growth this year by hitting the record-high revenue of THB8.5 billion in 2022, doubling the YoY growth from the high-performing 2021, which ended at THB4.5 billion. Thanks to the fast recovery in tourism, its well-diversified hospitality portfolios, upgraded services and offerings to reach high tourist demands, and enhanced direct booking channels, the growth will push SHR to become the No. 2 highest revenue Thai hotel operator.
Strong pent-up demand fuels tourism recovery
“The tourism sector continues to recover in many parts of the world. We foresee the increasing demands in the hospitality business, including our properties in the five top leisure destinations, particularly in the UK and The Maldives, whose contributions are accounted for 44% and 28%, respectively,” said Mr. Dirk De Cuyper, Chief Executive Officer of S Hotels & Resorts Plc., “In the UK, experts project the revenue per available room or RevPAR to return to the pre-pandemic level of 2019; while the upside to restore 2022 RevPAR to pre-Brexit level is expected from MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) activities, around 50% of which containing in-person components, setting at hotels. The Maldives also sees strong demands back from tourists and remained minimally impacted by geopolitical issues. The number of tourist arrivals since the issues arose is 168,491, which is up from the same period in 2020 and 2021 by more than 45% on average. Thanks to the return of visitors are from the European and Middle-eastern regions. In addition, the Maldivian government expects the estimated tourist arrivals to the Maldives in 2022 to increase from the same period last year by 21%, reaching 1.6 million visitors. Tourism growth is also expected in other destinations, e.g., Fiji, Mauritius, and Thailand, as Covid-19-related travel restrictions in each market begin to ease. We, therefore, are confident that the macro trends will significantly contribute to our revenues, considering we have an average of 30% repeat guests to our hotels.”
Enhanced on-property experiences lead to 20-25% increase in ADR.
Another key factor that will drive 2022 revenue is the success of the property renovation and the creation of value-added features in all identified potential properties to cater to guests’ various preferences and
lifestyle needs. In addition, bundle packages with SHR’s unique experiential tourism activities offered to guests e.g. the Marine Discovery Centre at SAii Phi Phi Island Village, or the Maldives Discovery Centre at CROSSROADS Maldives, have attracted more spending from trendy and nature-loving tourists by 15%. The moves are expected to increase the properties’ average daily rate (ADR) by 20-25% this year.
Three SHR properties have been renovated and undergone brand conversion to align with the company’s homegrown brand and self-managed platform, SAii, which allows SHR the flexibility to implement sales and marketing initiatives. The conversion has proven to have a 30% higher ADR in the fourth quarter of 2021 than the same quarter in 2020.
Direct booking approach pushes revenue to grow further.
Moreover, SHR’s strategy in driving the business using digital marketing to create customized platforms for the wider implementation of direct booking has given the company more resilience and adaptability. Last year, SHR saw significant growth through the direct booking platform that has been customized and adapted to “We Travel Together”, the government’s tourism stimulus package to create a seamless online booking journey for the guests. This year, the company expects the revenue contribution from a direct booking to total revenue to be increased from an average of 10% in previous years to 30% in 2022.
Growth plan: Triple the size of the revenue to maintain leadership
For a three-year plan, the company has earmarked an approximately THB7.3 billion budget to further expand the growth of SHR portfolios. A total budget of THB2.8 billion has been set aside to enhance its asset rotation strategy for existing properties and the construction of SO/Maldives, which is set to launch in 2023. The other THB4.5 billion is set for the merger and acquisition plan for new properties.
“Within the next three years, we have committed to accelerating growth for the company in the post-pandemic future. We have planned to maintain our overall portfolio in the existing properties at an optimal level by unlocking our fully valued assets in order to uplift the potential ones, which we are piloting in the UK hotel portfolio. For new properties, we have eyed M&A projects around the Asia-pacific coast and the Mediterranean and Indian Oceans under the THB4.5 billion budget. We also aim to focus on being a hotel operator, either through a flagship homegrown brand or partnering with leading international brands for business expansion. With the efforts, we target to reach our goals of tripling our size within 2024,” added Mr. De Cuyper.
About S Hotels & Resorts Public Company Limited
S Hotels & Resorts Public Company Limited (SHR), the hospitality arm of Singha Estate Public Company Limited, is a fast-growing, Thai-inspired company with an extensive international portfolio and world-class standards. Specialising in the management and investment of high-quality hotels and resorts in desirable destinations across the globe, S Hotels & Resorts has created a collection of its own distinctive lifestyle brands, whilst also partnering with the hospitality industry’s leading names. The company aims to set new standards for leisure and lifestyle through diversified business platforms and to enhance value for all its stakeholders based upon a philosophy of sustainable development and delivering benefits to local communities. To learn more, please visit our website at http://www.shotelsresorts.com or follow us on Facebook, Instagram, or LinkedIn.
S Hotels & Resorts Public Company Limited
123 Suntowers Building B, 10th Floor,
Vibhavadi-Rangsit Road, Chom Phon,
Chatuchak, Bangkok 10900
Tel. +66 (0) 2050-5555
http://www.shotelsresorts.com
หมวดหมู่:#SHR, ไม่มีหมวดหมู่, Hotels, New Hotel, NEWS