“แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น” ผนึก “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”
เดินหน้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
เปิดตัว “มีเลีย เชียงใหม่” เพิ่มพอร์ตโรงแรมคุณภาพ เสริมแกร่งภาคเหนือ
ประกาศความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ ตอบรับนโยบายเปิดประเทศ
พร้อมผลักดัน 19 โรงแรมในเครือเติบโตแบบก้าวกระโดด

10 เมษายน 2565, เชียงใหม่ ประเทศไทย – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อม บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขานรับนโยบายภาครัฐ ดันกลุ่มโรงแรมในเครือกว่า 19 แห่ง เติบโตแบบก้าวกระโดดรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย-ต่างชาติช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ “โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่” (Meliá Chiang Mai) อีกหนึ่งโรงแรมคุณภาพจากเครือ AWC เสริมการท่องเที่ยวภาคเหนือ ตั้งแต่ 10 เมษายนนี้เป็นต้นไป

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้มีการผ่อนคลายมาตรการเรื่องการเดินทางเข้าประเทศ โดยยกเว้นการตรวจแบบ RT-PCR จากประเทศต้นทางก่อนเดินทางเข้าไทย เหลือเพียงการตรวจแบบ Test & Go ในวันแรกเมื่อเดินทางมาถึงและตรวจ self-ATK อีกครั้งในวันที่ 5 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในภาพรวมของไทยกลับมาคึกคักทันทีตั้งแต่วันแรกของมาตรการ สะท้อนผ่าน           จำนวนเที่ยวบินรวมถึงจำนวนตัวเลขของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงหลักหมื่นคนต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยในปี 2565 นี้ทาง ททท.ได้ตั้งเป้ายอดนักเดินทางชาวต่างชาติเอาไว้ที่ 7 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ถึง         1.07 ล้านล้านบาท และกลับมาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกครั้ง

นางสาวสมฤดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางภาครัฐยังเตรียมนโยบายผลักดันเพื่อปลดล็อกเงื่อนไขการเข้าประเทศทั้งหมดให้เหมือนกับก่อนวิกฤตโควิด-19 (ก่อนปี 2563) ด้วยการนำเสนอ ศบค. เพื่อยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass รวมถึงการเข้าประเทศในรูปแบบต่างๆ ทั้ง Test & Go และ Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยจะทยอยชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับนโยบายการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในปี 2565 ททท.จะมุ่งขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นิว แชปเตอร์” (Amazing Thailand New Chapter) หรือการนำเสนอภาพใหม่ ของการท่องเที่ยวไทยที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวด้วยเรื่องราวภาพการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ผ่านการให้ทุกภาคส่วนร่วมกันพลิกโฉมประเทศไทย เพื่อก้าวสู่วิถีใหม่ ในทุกมิติ โดยเดินหน้าบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ททท.กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งรวมถึงโรงแรมคุณภาพจากเครือ AWC ทั้ง 19 แห่งทั่วประเทศ ฯลฯ ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพนำนวัตกรรม ดึงเทคโนโลยีใหม่มาปรับใช้ในการให้บริการ ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานต่างๆ โดยเฉพาะด้านสุขภาพและความปลอดภัย เพื่อตอบสนองความต้องการ และสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวยุควิถีปกติใหม่ (นิวนอร์มอล) เพื่อส่งเสริมให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว

“นอกจากนี้ ททท. ยังเดินหน้าโครงการ Workation Paradise Throughout Thailand ที่พัฒนาต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ภายใต้แนวคิด Working & Outing from Somewhere เปลี่ยนทุกที่เป็นสถานที่ทำงานคู่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเทรนด์การทำงานที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน คาดว่าจะสามารถช่วยรองรับการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ หรือ MICE เข้าสู่ประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะสร้างเม็ดเงิน ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยได้อีกมาก รวมถึงเป็นการกระจายเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวออกไปสู่หัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่อไป” นางสาวสมฤดี กล่าว

ด้าน นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 บริษัทเห็นสัญญาณบวกของการเริ่มฟื้นตัวกลับมาของเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งสอดรับกับมาตรการฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งผลให้สถานการณ์ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยต่อเนื่องมาสู่ไตรมาสที่ 2 ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่ผู้คนเดินทางกลับบ้านใช้ชีวิตกับครอบครัว ออกท่องเที่ยวและรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งทำให้การจับจ่ายใช้สอยกลับมาคึกคัก สร้างเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนในประเทศมากยิ่งขึ้น

“ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย จึงมั่นใจอย่างมากว่าหากสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายในปี 2565 ทุกกลุ่มธุรกิจของ AWC จะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สอดคล้องกับเทรนด์การเดินทางที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบ Long Stay และ Workation ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางในวันธรรมดามากขึ้น เปิดโอกาสให้บุคลากรในหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ และกลุ่มคนวัยทำงาน สามารถเปลี่ยนสถานที่ทุกที่ให้เป็นที่ทำงาน ท่ามกลางบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม” นางวัลลภา กล่าว

ทั้งนี้ พบว่าภาพรวมยอดจองโรงแรมของ AWC ในช่วงต้นปี 2565 เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมียอดเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการคุณภาพใหม่ๆ และร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกมาโดยตลอด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการกลับมาของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมถึงเป็นการมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้บริโภค และสร้างจุดหมายปลายทางแห่งการทำงานและพักผ่อนในระดับสากล

นอกจากนี้ AWC เดินหน้าเสริมพอร์ตโฟลิโอธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2565 ซึ่งถือเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ขนาด 260 ห้องพัก เตรียมความพร้อมเสริมทัพรับการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด โดยโรงแรมฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับไพร์ม โลเกชั่น ใกล้แม่น้ำปิงและไนท์บาซาร์ย่านค้าขายที่มีชื่อเสียงของจังหวัด เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบาย รวมถึงเป็นอีกตัวเลือกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมห้องประชุมขนาดใหญ่รองรับธุรกิจ MICE ที่ภายในโรงแรมได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “CHIANGMAI CHARM” โดยผสมผสานอัตลักษณ์ ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีมนต์เสน่ห์ ผ่านการตกแต่งภายในด้วยศิลปหัตกรรมท้องถิ่นร่วมสมัย จนไปถึงการนำเสนออาหารและผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชุมชนที่แสดงถึงเอกลักษณ์และคุณค่าของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ปรับเปลี่ยนจากสถานการณ์โควิด เน้นใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมผ่านแนวคิด “360 Cuisine” ที่ทางโรงแรมได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเกษตรกรในท้องถิ่น ส่งเสริมการผลิตแบบรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อชุมชนและห่วงโซ่อาหารอย่างยั่งยืน โดยเน้นวัตถุดิบท้องถิ่นที่ได้คัดสรรมาจากฟาร์มออร์แกนิคไม่ว่าจะจากโครงการหลวง หรือ Ori9in Farm ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์ได้ผ่านห้องอาหารของโรงแรม และที่พลาดไม่ได้กับไฮไลท์จุดชมวิวทิวทัศน์อันงดงามจาก “ไหม เดอะ สกาย บาร์” ซึ่งถือเป็นรูฟท็อปบาร์บนยอดอาคารที่สูงที่สุดในเมืองเชียงใหม่ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนให้ได้ร่วมภาคภูมิใจ โดยถือเป็นโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่และของภาคเหนือภายใต้แบรนด์มีเลีย ผู้บริหารรีสอร์ทชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปจากประเทศสเปน

ทางบริษัทยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของภาคเหนือ พร้อมเดินหน้าสนับสนุนการท่องเที่ยว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับการพัฒนาบนทำเลศักยภาพกลางเมือง ตั้งเป้าเสริมพอร์ตคุณภาพของ AWC ในภาคเหนือให้ครบ 3 แห่งภายในปี 2565 โดยจับมือกับพันธมิตรระดับโลกทั้งจากเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่) เครือมีเลีย (มีเลีย เชียงใหม่) และเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป หรือ IHG กับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ เพื่อผลักดันเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่ของภูมิภาคและของประเทศต่อไป

ปัจจุบัน AWC มีกลุ่มโรงแรมในเครือทั้งหมด 19 แห่งที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศใน 6 เมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง กรุงเทพฯ กระบี่ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ และเกาะสมุย โดยมีจำนวนห้องพักรวมกันกว่า 5,201 ห้อง

Asset World Corporation, in cooperation with the Tourism Authority of Thailand,
progresses tourism to drive the Thai economy by launching
Meliá Chiang Mai as an addition to its hotel portfolio.
The hotel will strengthen the Northern province as it prepares to welcome local and overseas travelers. AWC expects exponential growth of 19 affiliated hotels in the group as Thailand reopens.

10 April 2022, Chiang Mai, Thailand – The Tourism Authority of Thailand, along with Asset World Corp Public Company Limited or AWC, Thailand’s leading integrated lifestyle real estate group, continues to drive the Thai economy and revive tourism with the opening of Meliá Chiang Mai, as the country prepares to welcome local and overseas travelers back during the Songkran festival. The company expects exponential growth at its 19 affiliated hotels as visitors return to Thailand.

Ms. Somradee Chitchong, Deputy Governor for Administration, Tourism Authority of Thailand, or TAT, revealed that since 1 April 2022, Thailand has relaxed travel restrictions for visitors, with the mandatory pre-departure RT-PCR test result no longer required to enter the country. Travelers will only need to do the Test & Go on the first day of arrival and an ATK self-rapid test on the fifth day, resulting in more incoming flights and tens of thousands of tourists traveling to Thailand each day. That number will continue to increase during 2022, with the TAT expecting to welcome 7 million foreign tourists, who will generate THB 1.07 trillion and once again be a powerful engine to drive Thailand’s economy.  

Ms. Somradee added that the government planned to remove all travel restrictions and return to pre-COVID-19 (before 2020) normalcy by proposing to the Order of the Center for the Administration of the Situation due to the Outbreak of the Communicable Disease Coronavirus (COVID-19) to cancel the Thailand Pass registration and other measures including the Test & Go and Sandbox from 1 June 2022, to boost the Thai tourism industry.

TAT will promote the tourism industry in 2022 with the “Amazing Thailand New Chapter” concept in response to the needs of travelers and the government’s policy. TAT will create a new normal tourism in every dimension by cooperating with the government and private sector, including the 19 affiliated hotels of AWC, to develop products and services. Innovation and technology will be applied to increase the standard of health and safety to satisfy the needs of the “new normal” travelers and create more economic value for the tourism industry.

“In addition to this, TAT will still continue the Workation Paradise Throughout Thailand for the third consecutive year. The Working & Outing from Somewhere that turns every place into a work and travel destination is still a popular trend and will boost both local and international tourism. This trend will also attract more meetings, incentives, conferences, and exhibitions (MICE) travelers to Thailand, which will help revenue growth in tourism in big cities around the country, boosting the economy,” Ms. Somradee concluded.

Mrs. Wallapa Traisorat, CEO and President of Asset World Corp Public Company Limited or AWC, said that since the beginning of 2022, the company has started to see positive signs of the overall economic revival in correspondence with the government’s measures to revive economic activities. In the second quarter, there will be long holidays where people will travel, spend time with family, and dine out, creating more spending opportunities and money in circulation within the country.

“The company is ready to welcome both local and overseas travelers and is confident that when the situation improves in 2022, all of AWC’s business segments will revive and see exponential growth. This is in accordance with the worldwide increase of traveling trends such as Long Stay and Workation, which creates more travel opportunities during weekdays and more opportunities for employees to work from anywhere or in a different atmosphere,” Mrs. Wallapa said.

Overall reservations at AWC affiliated hotels in 2022 has increased by 100%, in comparison to the same period of last year. The company has invested in new high-quality projects and cooperated with the world’s leading partners to prepare for the revival of the country’s economy and the tourism industry, as well as providing a new experience for customers and establishing a work and travel destination with international standards.

Moreover, AWC continues to expand its hotel portfolio with the grand opening of Meliá Chiang Mai on 10 April 2022. The 5-star hotel has 260 rooms and is ready to welcome travelers post-COVID-19. Situated in a prime location near the Ping River and Night Bazaar, a famous tourist attraction in Chiang Mai, the hotel provides a new alternative for MICE travelers with grand meeting rooms and the “CHIANGMAI CHARM”, an integrated design concept of local art and culture, including local food and products that represent the identity of Chiang Mai. To correspond to our customers new lifestyle which has changed during the COVID-19 situation, the hotel emphasizes health and the environment through the “360 Cuisine” concept where the hotel works closely with local farmers. Promoting socially responsible production for communities and a sustainable food chain by focusing on sourcing local ingredients from organic farms, such as the Ori9in Farm and the Royal Project, which can both be experienced at the hotel’s dining room. Another highlight not to be missed is the spectacular view from Mai The Sky Bar, the tallest roof top bar in Chiang Mai. The hotel is the first in Chiang Mai and the North of Thailand under the Meliá brand, a leading resort brand from Spain.

The company is confident in the potential of Chiang Mai as an economic and cultural center of the north and is ready to support the tourism industry to drive the economy with the development of high-quality projects in the heart of the city. AWC aims to expand its hotel portfolio with three projects within 2022 by cooperating with international partners including Marriott International (Le Meridien Chiang Mai), Meliá (Meliá Chiang Mai), and International Hotel Group or IHG (Intercontinental Chiang Mai Meaping, expected to open by the end of the year.). All of this is with the objective to drive Chiang Mai to be the center of luxury tourism in the region and the country.

At present, AWC has 19 affiliated hotels in the group, located in six main tourist destinations around the country including Bangkok, Krabi, Hua Hin, Phuket, Chiang Mai, and Koh Samui, with a total of 5,201 rooms.